Ga offline met de app Player FM !
สดแต่เช้า Ep.1169 ใครๆเขาก็ทำกัน
Manage episode 461151997 series 3264869
พระธรรมนำชีวิต
ตอน ใครๆเขาก็ทำกัน Ep.1169
เรื่องราวของผู้วินิจฉัยคนที่ 12 นี้ทำให้ผมอยากรู้จักพระเจ้ามากขึ้นในทุกมุมที่พระองค์ทรงเป็น สิ่งที่ผมได้รับจากเรื่องราวนี้คือถ้าผมเชื่อว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ทรงมีสิทธิอำนาจในทุกอย่าง ผมต้องยอมพระองค์กับทุกเรื่อง ไม่ต้องพยายามหาเหตุผลกับเรื่องราวที่ไม่เข้าใจ แต่ต้องเชื่อฟังและวางใจในพระเจ้าที่ผมเชื่อ
'แล้วบิดาของท่านก็ลงไปหาหญิงนั้น และแซมสันจัดงานเลี้ยงที่นั่น ดังที่คนหนุ่มๆ เขาทำกัน ' ผู้วินิจฉัย 14:10
นี่เป็นสิ่งที่จะทำพวกเราพัง “ใครๆเขาก็ทำกัน” แซมสันไปแต่งงานด้วยพิธีของคนต่างชาติ จัดงานเลี้ยงที่นั่น ดังที่คนหนุ่มๆ เขาทำกัน ขอให้เราจำไว้ให้ดี เราถูกเรียกและเลือกมาเป็นธรรมิกชนของพระเจ้าแล้ว ถูกชำระให้สะอาด ถูกแยกออกมาแล้ว พระวจนะของพระเจ้าเตือนเราไว้ว่า
'อย่าดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านใหม่ แล้วท่านจึงจะสามารถพิสูจน์และยืนยันได้ว่าสิ่งใดคือพระประสงค์ของพระเจ้า คือพระประสงค์อันดีอันเป็นที่พอพระทัยและสมบูรณ์พร้อมของพระองค์ ' โรม 12:2 TNCV
ครอบครัวแซมสันเป็นคนต่างถิ่นมาพวกเขาจึงนำเพื่อน 30 คนให้มางานเลี้ยง จุดอ่อนอีกอันนึงที่ผมเห็นของแซมสันคือเรื่องการพูดของเขาและความมั่นใจในตนเองมาก แซมสันท้าชวนให้คนที่มางานนั้นทายปริศนา หากทายได้ก่อนจบงานเลี้ยงใน 7 วัน เขาจะให้เสื้อป่านและเสื้อเที่ยวงานคนละชุด แต่ถ้าพวกเขาทายไม่ได้ พวกเขาก็ต้องให้เสื้อป่านและเสื้อเที่ยวงานคนละชุดแก่แซมสันเช่นกัน ซึ่งทั้ง 30 คนก็รับคำท้าชวน
'ดังนั้นแซมสันจึงกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “มีของกินออกมาจากตัวผู้กิน มีของรสหวานออกมาจากตัวที่แข็งแรง” ในสามวันพวกเขาก็ยังแก้ปริศนาไม่ได้ ' ผู้วินิจฉัย 14:14
เราจะเห็นว่าสิ่งที่ใครๆเขาก็ทำกัน เกิดขึ้นใน 30 คนนั้น เขาหาวิธีที่จะชนะให้ได้โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จะถูกหรือผิด จะดีหรือไม่ดี เขาเพียงแต่เขาต้องชนะ พวกเขาเข้าทางภรรยาของแซมสัน ขอให้เธอหลอกเขาเฉลยปริศนาให้หน่อยโดยขู่จะเผาบ้านพ่อของเธอ และว่ากล่าวหาว่าที่เชิญมาเพราะอยากจะได้ทรัพย์สินของเขา ภรรยาของแซมสันไปร้องไห้และก็บอกฟูมฟายกับเขาว่า เธอเกลียดฉัน เธอไม่รักฉัน เธอทายปริศนาแก่ชาวบ้านแต่เธอก็ไม่เฉลยให้ฉันฟัง แซมสันจึงบอกว่า เธอพ่อแม่ของฉัน ฉันยังไม่บอกเลย ฉันจะบอกเธอได้ยังไง? นางจึงร้องไห้รบเร้าตลอดเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดแซมสันก็พลาด เฉลยปริศนาให้นางฟัง เธอก็ไปบอกพวกเขาเพื่อปกป้องให้ครอบครัวของเธอปลอดภัย และพ้นจากคำกล่าวหาของพวกเขา
'พอวันที่เจ็ดก่อนดวงอาทิตย์ตก ชาวเมืองจึงบอกแซมสันว่า “มีอะไรหวานกว่าน้ำผึ้ง? มีอะไรแข็งแรงกว่าสิงโต?” แซมสันจึงบอกพวกเขาว่า “ถ้าเจ้าไม่เอาแม่โคของข้าช่วยไถ เจ้าคงจะแก้ปริศนาของข้าไม่ได้” ' ผู้วินิจฉัย 14:18
เมื่อชาวบ้านรู้คำตอบ พวกเขาก็ตอบได้ ทุกอย่างจึงไม่เป็นไปตามแผนหรือความคิดที่เขาวางไว้ ดูเหมือนว่าแซมสันโกรธ แต่เขาก็ยังรักษาสัญญาที่จะให้เสื้อกับพวกเขา
'แล้วพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็เสด็จมาเหนือแซมสันอย่างฉับพลัน ท่านจึงลงไปที่เมืองอัชเคโลน ฆ่าชาวเมืองนั้นเสีย 30 คน ริบเอาข้าวของ และมอบเสื้อเที่ยวงานให้ผู้ที่แก้ปริศนา แล้วท่านกลับไปบ้านของบิดาท่านด้วยความโกรธจัด ส่วนภรรยาของแซมสันนั้นก็ถูกยกให้แก่เพื่อนของแซมสัน ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนั้นเสีย' ผู้วินิจฉัย 14:19-20
หลายคนอ่านแล้วอาจจะไม่เข้าใจเรื่องราวนี้ว่าทำไมพระเจ้านำเขาแบบนั้น แต่ถ้ามองในมุมของคนอิสราเอลที่ถูกกดขี่ข่มเหง พระเจ้าทรงนำทุกอย่างเพื่อคนของพระองค์ แต่เราก็ควรจะเลือกที่จะตามพระทัยของพระเจ้าตั้งแต่แรกเพื่อจะไม่ต้องรับผลลัพธ์ที่เจ็บปวด แต่การทำงานของพระเจ้าก็เกินกว่าความเข้าใจของผู้ที่ถูกสร้างอย่างเรา แต่พระเจ้าทรงรักมนุษย์ที่พระองค์สร้าง พระเจ้าจึงส่งพระเยซูที่พระองค์ทรงรักมาเพื่อพวกเราทุกคน บทเรียนที่สำคัญในเรื่องนี้สิ่งที่ทำลงไปนั้นจะมีผลลัพธ์ที่เราต้องยอมรับด้วย ซึ่งอาจจะเจ็บปวด ดังนั้นขอให้เราระมัดระวังคำพูดของเรา จิตใจและความคิดของเราที่จะไม่คิดว่าตนเองฉลาดกว่า เก่งกว่า มีกำลังมากกว่าเพราะมีพระเจ้าสถิตอยู่ด้วยจึงอยู่เหนือกว่าคนอื่น เราอาจจะคิดวางแผนบางอย่างเพื่อจะได้เท่านั้น หากเราไม่ทำตามพระทัยพระเจ้า แม้ว่าพระเจ้าจะอยู่ด้วยแต่สิ่งเหล่านั้นที่เราทำจะมีผลตามมาเสมอ ขอพระเจ้าเมตตาเราทุกคน
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
908 afleveringen
Manage episode 461151997 series 3264869
พระธรรมนำชีวิต
ตอน ใครๆเขาก็ทำกัน Ep.1169
เรื่องราวของผู้วินิจฉัยคนที่ 12 นี้ทำให้ผมอยากรู้จักพระเจ้ามากขึ้นในทุกมุมที่พระองค์ทรงเป็น สิ่งที่ผมได้รับจากเรื่องราวนี้คือถ้าผมเชื่อว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ทรงมีสิทธิอำนาจในทุกอย่าง ผมต้องยอมพระองค์กับทุกเรื่อง ไม่ต้องพยายามหาเหตุผลกับเรื่องราวที่ไม่เข้าใจ แต่ต้องเชื่อฟังและวางใจในพระเจ้าที่ผมเชื่อ
'แล้วบิดาของท่านก็ลงไปหาหญิงนั้น และแซมสันจัดงานเลี้ยงที่นั่น ดังที่คนหนุ่มๆ เขาทำกัน ' ผู้วินิจฉัย 14:10
นี่เป็นสิ่งที่จะทำพวกเราพัง “ใครๆเขาก็ทำกัน” แซมสันไปแต่งงานด้วยพิธีของคนต่างชาติ จัดงานเลี้ยงที่นั่น ดังที่คนหนุ่มๆ เขาทำกัน ขอให้เราจำไว้ให้ดี เราถูกเรียกและเลือกมาเป็นธรรมิกชนของพระเจ้าแล้ว ถูกชำระให้สะอาด ถูกแยกออกมาแล้ว พระวจนะของพระเจ้าเตือนเราไว้ว่า
'อย่าดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านใหม่ แล้วท่านจึงจะสามารถพิสูจน์และยืนยันได้ว่าสิ่งใดคือพระประสงค์ของพระเจ้า คือพระประสงค์อันดีอันเป็นที่พอพระทัยและสมบูรณ์พร้อมของพระองค์ ' โรม 12:2 TNCV
ครอบครัวแซมสันเป็นคนต่างถิ่นมาพวกเขาจึงนำเพื่อน 30 คนให้มางานเลี้ยง จุดอ่อนอีกอันนึงที่ผมเห็นของแซมสันคือเรื่องการพูดของเขาและความมั่นใจในตนเองมาก แซมสันท้าชวนให้คนที่มางานนั้นทายปริศนา หากทายได้ก่อนจบงานเลี้ยงใน 7 วัน เขาจะให้เสื้อป่านและเสื้อเที่ยวงานคนละชุด แต่ถ้าพวกเขาทายไม่ได้ พวกเขาก็ต้องให้เสื้อป่านและเสื้อเที่ยวงานคนละชุดแก่แซมสันเช่นกัน ซึ่งทั้ง 30 คนก็รับคำท้าชวน
'ดังนั้นแซมสันจึงกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “มีของกินออกมาจากตัวผู้กิน มีของรสหวานออกมาจากตัวที่แข็งแรง” ในสามวันพวกเขาก็ยังแก้ปริศนาไม่ได้ ' ผู้วินิจฉัย 14:14
เราจะเห็นว่าสิ่งที่ใครๆเขาก็ทำกัน เกิดขึ้นใน 30 คนนั้น เขาหาวิธีที่จะชนะให้ได้โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จะถูกหรือผิด จะดีหรือไม่ดี เขาเพียงแต่เขาต้องชนะ พวกเขาเข้าทางภรรยาของแซมสัน ขอให้เธอหลอกเขาเฉลยปริศนาให้หน่อยโดยขู่จะเผาบ้านพ่อของเธอ และว่ากล่าวหาว่าที่เชิญมาเพราะอยากจะได้ทรัพย์สินของเขา ภรรยาของแซมสันไปร้องไห้และก็บอกฟูมฟายกับเขาว่า เธอเกลียดฉัน เธอไม่รักฉัน เธอทายปริศนาแก่ชาวบ้านแต่เธอก็ไม่เฉลยให้ฉันฟัง แซมสันจึงบอกว่า เธอพ่อแม่ของฉัน ฉันยังไม่บอกเลย ฉันจะบอกเธอได้ยังไง? นางจึงร้องไห้รบเร้าตลอดเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดแซมสันก็พลาด เฉลยปริศนาให้นางฟัง เธอก็ไปบอกพวกเขาเพื่อปกป้องให้ครอบครัวของเธอปลอดภัย และพ้นจากคำกล่าวหาของพวกเขา
'พอวันที่เจ็ดก่อนดวงอาทิตย์ตก ชาวเมืองจึงบอกแซมสันว่า “มีอะไรหวานกว่าน้ำผึ้ง? มีอะไรแข็งแรงกว่าสิงโต?” แซมสันจึงบอกพวกเขาว่า “ถ้าเจ้าไม่เอาแม่โคของข้าช่วยไถ เจ้าคงจะแก้ปริศนาของข้าไม่ได้” ' ผู้วินิจฉัย 14:18
เมื่อชาวบ้านรู้คำตอบ พวกเขาก็ตอบได้ ทุกอย่างจึงไม่เป็นไปตามแผนหรือความคิดที่เขาวางไว้ ดูเหมือนว่าแซมสันโกรธ แต่เขาก็ยังรักษาสัญญาที่จะให้เสื้อกับพวกเขา
'แล้วพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็เสด็จมาเหนือแซมสันอย่างฉับพลัน ท่านจึงลงไปที่เมืองอัชเคโลน ฆ่าชาวเมืองนั้นเสีย 30 คน ริบเอาข้าวของ และมอบเสื้อเที่ยวงานให้ผู้ที่แก้ปริศนา แล้วท่านกลับไปบ้านของบิดาท่านด้วยความโกรธจัด ส่วนภรรยาของแซมสันนั้นก็ถูกยกให้แก่เพื่อนของแซมสัน ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนั้นเสีย' ผู้วินิจฉัย 14:19-20
หลายคนอ่านแล้วอาจจะไม่เข้าใจเรื่องราวนี้ว่าทำไมพระเจ้านำเขาแบบนั้น แต่ถ้ามองในมุมของคนอิสราเอลที่ถูกกดขี่ข่มเหง พระเจ้าทรงนำทุกอย่างเพื่อคนของพระองค์ แต่เราก็ควรจะเลือกที่จะตามพระทัยของพระเจ้าตั้งแต่แรกเพื่อจะไม่ต้องรับผลลัพธ์ที่เจ็บปวด แต่การทำงานของพระเจ้าก็เกินกว่าความเข้าใจของผู้ที่ถูกสร้างอย่างเรา แต่พระเจ้าทรงรักมนุษย์ที่พระองค์สร้าง พระเจ้าจึงส่งพระเยซูที่พระองค์ทรงรักมาเพื่อพวกเราทุกคน บทเรียนที่สำคัญในเรื่องนี้สิ่งที่ทำลงไปนั้นจะมีผลลัพธ์ที่เราต้องยอมรับด้วย ซึ่งอาจจะเจ็บปวด ดังนั้นขอให้เราระมัดระวังคำพูดของเรา จิตใจและความคิดของเราที่จะไม่คิดว่าตนเองฉลาดกว่า เก่งกว่า มีกำลังมากกว่าเพราะมีพระเจ้าสถิตอยู่ด้วยจึงอยู่เหนือกว่าคนอื่น เราอาจจะคิดวางแผนบางอย่างเพื่อจะได้เท่านั้น หากเราไม่ทำตามพระทัยพระเจ้า แม้ว่าพระเจ้าจะอยู่ด้วยแต่สิ่งเหล่านั้นที่เราทำจะมีผลตามมาเสมอ ขอพระเจ้าเมตตาเราทุกคน
วุฒิ วงศ์สรรเสริญ
908 afleveringen
Alle afleveringen
×Welkom op Player FM!
Player FM scant het web op podcasts van hoge kwaliteit waarvan u nu kunt genieten. Het is de beste podcast-app en werkt op Android, iPhone en internet. Aanmelden om abonnementen op verschillende apparaten te synchroniseren.